บ้านปางมดแดง หมู่ที่ 10 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา
ผู้ใหญ่บ้าน คือ นายสมหมาย หล้าคำวัดปางมดแดง ตั้งอยู่ที่บ้านปางมดแดง หมู่ที่ 9 ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา อาคารเสนาสนะประกอบด้วย วิหารศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุมีพระประธานเป็นพระพุทธรูป 3 องค์ วัดปางมดแดง ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2522 กระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเป็นวัด เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2524 มีพระครูปิยธรรมถาวร เป็นเจ้าอาวาส ใครมีภาพหรือข้อมูลเพิ่มเติมก็นำมาแบ่งปันกันชมนะครับ ขอบคุณข้อมูลจากศูนย์กลางทางวัฒนธรรม
ยังไม่มีข้อมูลและรูปภาพนะครับ รับกวนเพื่อนๆส่งกันเข้ามานะครับ เพื่อร่วมกันเผยแพร่เชียงคำของเรา สำนึกรักบ้านเกิดครั
ชนชาติพันธุ์ พี่น้องชาวอีสาน
จะ พยายามนำเสนอให้ครบทุกชนชาติพันธุ์ในไทย ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณเจ้าของภาพทุกภาพเป็นอย่างสูง ที่ได้นำภาพมาประกอบการนำเสนอ เพื่อเผยแผ่เป็นวิทยาทาน หากวันใดวันหนึ่ง ท่านผ่านไปผ่านมาพบกับภาพของท่าน ผมก็ขออนุญาตผ่านตรงนี้เลยนะครับ เพราะบางภาพ ไม่ทราบที่มาจริงๆ ขอให้ท่านจงภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความรู้และเพื่อเป็น วิทยาทานครับ วันนี้จะนำเสนอชนชาติพันธุ์พี่น้องชาวอิสาน ถือว่า เป็นชนชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์ทาง lucabetasia วัฒนธรรมประเพณี ที่สืบทอดกันมาแต่ช้านาน มีเอกลักษณ์ทางการแต่งตัวที่สวยงามมาก และมีวิถีชีวิตคล้ายคนเมืองบ้านเฮา การกินการอยู่ และแถบอำเภอเชียงคำของเรา ก็มีพี่น้องอีสานย้ายถิ่นมาอยู่รวมกับพวกเราก็หลายหมู่บ้านเลย เรามาทำความรู้จักกับชนชาติพันธุ์พี่น้องชาวอิสานด้วยกันนะครับ
ไทยอีสาน เป็นประชากรกลุ่มใหญ่ พูดภาษาไทย-ลาว (ภาษาอีสาน เป็นกลุ่มผู้นำทางด้านวัฒนธรรมภาคอีสาน เช่น ฮีต คอง ตำนาน อักษรศาสตร์ จารีตประเพณี นิยมตั้งหมู่บ้านเป็นกลุ่ม บนที่ดอนเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า “โนน” ยึดทำเลการทำนาเป็นสำคัญ อาศัยอยู่ทั่วไป lucabetasia
เรื่องถิ่นเดิมของชาติพันธุ์ลาวมีแนวคิด 2 อย่าง ซึ่งก็มีเหตุผลสนับสนุนพอ ๆ กันคือ
1.
ถิ่น เดิม ของลาวอยู่ที่อีสานนี่เอง ไม่ได้อพยพมาจากไหน ถ้าเหมาว่า คนบ้านเชียงคือลาว ก็แสดงว่า ลาวมาตั้งหลักแหล่งที่บ้านเชียงมากกว่า 5600 ปีมาแล้ว เพราะอายุหม้อบ้านเชียง ที่พิสูจน์โดยวิธีคาร์บอน 14 บอกว่า หม้อบ้านเชียงอายุเก่าแก่ถึง 5600 ปี กว่าคนบ้านเชียง จะเริ่มตีหม้อใช้ในครัวเรือน ก็ต้องสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยก่อนหน้านั้นแล้ว แนวความคิดนี้ ยังบอกอีกว่า นอกจากลาวจะอยู่อีสานแล้ว ยังกระจายไปอยู่ที่อื่นอีก เช่น เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น ยุโรป แล้วข้ามไปอเมริกาเป็นพวกอินเดียนแดง
ถิ่น เดิม ของลาวอยู่ที่อีสาน และมีมาจากที่อื่นด้วย (อภิศักดิ์ โสมอินทร์. 2540 : 69) แนวคิดนี้เชื่อว่า คนอีสานน่าจะมีอยู่แล้วในดินแดนที่เรียกว่า “อีสาน” หรือส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิ โดยประมาณ 10,000.- ปีที่ผ่านมา นักมานุษยวิทยา และนักประวัติศาสตร์ได้สันนิษฐานว่า ได้มีการอพยพของพวกละว้า หรือข่าลงมาอยู่ในแดนสุวรรณภูมินับเป็นคนพวกแรกที่เข้ามา พอเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิ ก็แบ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ ๆ 3 อาณาจักร คือ อาณาจักรทวารวดี ซึ่งมีนครปฐมเป็นราชธานี มีอาณาเขตถึงเมืองละโว้ (ลพบุรี) อาณาจักรที่สองคือโยนก เมืองหลวงได้แก่เมืองเงินยาง หรือเชียงแสน มีเขตแดนขึ้นไปถึงเมืองชะเลียงและเมืองเขิน อาณาจักรที่สามคือ โคตรบูร ได้แก่บรรดาชาวข่าที่มาสร้างอาณาจักรในลุ่มน้ำโขง มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองโคตรบูรณ์ ซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง
lucabetasia
จาก แนวคิด ที่ 2 จะเห็นว่า ในคำรวมที่นักมานุษยวิทยา และ นักประวัติศาสตร์เรียกว่า “คนอีสาน” นั้นน่าจะมีคนหลายกลุ่มหลายชาติพันธุ์ปะปนกันอยู่และในหลายกลุ่มนั้นน่าจะมี กลุ่มชาติพันธุ์ “ลาว” อยู่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานจากงานเขียนของนักวิชาการบางคนที่กล่าวว่า หลังจาก พวกละว้าหรือพวกข่าหมดอำนาจลง ดินแดนอีสานก็ถูกครอบครองโดยขอมและอ้ายลาว ต่อมา ขอมก็เสื่อมอำนาจลง ดินแดนส่วนนี้จึงถูกครอบครองโดยอ้ายลาวมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นอย่างนี้จริง จึงกล้าสรุปได้ว่า
อ้ายลาว” ก็คือกลุ่มชาติพันธุ์ลาวนั่นเอง อ้ายลาวเป็นสาขาหนึ่งของมองโกลเดิม อยู่ทางตอนบนของแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำเหลือง ก่อนที่จะอพยพเข้าครอบครองอีสานนั้น ได้รวมตัวกันตั้งเมืองสำคัญขึ้น 4 เมือง คือ นครลุง นครเงี้ยว และนครปา ต่อมากลุ่มอ้ายลาวเกิดสู้รบกับจีน สาเหตุเพราะ จีนมาแย่งดินแดน อ้ายลาวสู้จีนไม่ได้ จึงอพยพลงใต้ถอยร่นลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาตั้งอาณาจักรอยู่บริเวณยูนานในปัจจุบัน มีเมืองแถนเป็นศูนย์กลางสำคัญ แต่ก็ยังถูกรุกรานแย่งชิงจากจีนไม่หยุดหย่อน อ้ายลาวจึงอพยพลงมาตั้งอาณาจักรใหม่อีก คือ อาณาจักรหนองแส มีขุนบรมวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของอ้ายลาว เป็นผู้ปกครองขุนบรมขึ้นครองราชย์ พ.ศ.1272 ได้รวบรวมผู้คนเป็นปึกแผ่น และส่งลูกหลานไปครองเมืองต่าง ๆ ในบริเวณนั้นลูกหลานที่ส่งไปครองเมืองมี 7 คน คือ
หน้าที่เข้าชม | 1,283,888 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 330,473 ครั้ง |
เปิดร้าน | 8 พ.ย. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |